การแต่งงานของศาสนาคริสต์

การแต่งงานของศาสนาคริสต์ จัดงานแต่งงาน | ชุดแต่งงาน | ธีมงานแต่ง การ์ดแต่งงาน

            สมัยนี้ประเทศไทยเราไม่ได้มีแต่ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธอย่างที่ผ่านมา แต่ศาสนาคริสต์ก็มีคนที่นับถือเยอะไม่แตกต่างกัน ทำให้แนวคิวตะวันตกและหลักการของศาสนาคริสต์เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อคนไทยมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นการแต่งงานจึงมีทั้งคู่บ่าวสาวที่จัดงานแต่งงานตามพิธีของไทย กับคู่บ่าวสาวที่แต่งงานตามแบบศาสนาคริสต์ ซึ่งเราก็ได้พูดถึงพิธีการแต่งงานตามพิธีไทยไปเยอะแล้ว มาวันนี้ก็จะขออธิบายการแต่งงานของศาสนาคริสต์ดูบ้างว่าเป็นอย่างไร สำคัญขนาดไหนและมีกระบวนการใดในการแต่งงานบ้าง

ความเชื่อในการแต่งงานของศาสนาคริสต์

            การแต่งงานของศาสนาคริสต์ มีความเชื่อว่า วาระนี้เป็นศีลสำคัญทางศาสนา ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของชีวิต ด้วยความเชื่อว่าการที่หากชายหญิงได้แต่งงานกันนั้น นั่นหมายความว่าคนทั้งสองจะเกิดการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างครอบครัว สร้างประชากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและดำเนินชีวิตครอบครัวอย่างดีงามตามครรลองที่ควรจะเป็นของการผันแปรในช่วงชีวิต และที่สำคัญที่สุด คือ การแต่งงานนั้นจะมีได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตของชาวคริสต์เท่านั้น หากแต่งงานแล้ว จะไม่สามารถหย่าร้างเพื่อไปแต่งงานใหม่อีกได้ ยกเว้นแต่ว่าคู่ของตนจะเสียชีวิตไป

            ความเชื่อในการแต่งงานของศาสนาคริสต์ตรงกับคำกล่าวของ มัทธิว ในคัมภีร์ไบเบิล 19 : 4 – 6 ที่กล่าวไว้ว่า

“พระ​ผู้​ทรง​สร้าง​มนุษย์​แต่​เดิม​นั้นทรง​สร้าง​ให้​เป็น​ชาย​และ​หญิง และ​ตรัส​ว่า ‘เพราะ​เหตุ‍นี้ ผู้‍ชาย​จะ​ละ​บิดา​มารดา​ไป​ผูก​พัน​อยู่​กับ​ภรรยา และ​เขา​ทั้ง‍สอง​จะ​เป็น​เนื้อ​เดียว‍กัน’ ด้วย‍เหตุ‍นี้​เขา​ทั้ง‍สอง​จึง​ไม่​เป็น​สอง​ต่อ‍ไป แต่​เป็น​เนื้อ​อัน​เดียว‍กันเพราะ‍ฉะนั้น​สิ่ง​ซึ่ง​พระ‍เจ้า​ทรง​ผูก‍พัน​กัน​แล้ว อย่า​ให้​มนุษย์​ทำ​ให้​พราก​จาก​กัน​เลย”

ฉะนั้นคู่บ่าวสาวที่พร้อมจะครองคู่ร่วมชีวิตจึงต้องมั่นใจมาเป็นอย่างดีแล้วว่าจะรักแค่อีกฝ่ายคนเดียวและยึดมั่นที่จะคอยดูแลกันและกันตราบลมหายใจสุดท้าย

ขั้นตอนการจัดพิธีแต่งงานของศาสนาคริสต์

            พิธีแต่งงานของศาสนาคริสต์จะไม่มีขั้นตอนมากมายตั้งแต่เช้าจรดเย็นเหมือนพิธีแต่งงานของไทย ซึ่งพิธีแต่งงานจะทำคล้ายพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณพระเจ้าตามปกติ แต่บาทหลวงผู้ทำพิธีจะมีการกล่าวเริ่มพิธีด้วยบทพูดต่าง ๆ แก่คู่บ่าวสาว

1.เริ่มพิธี โดยการสวดภาวนาและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า

2.ภาควจนพิธีกรรม จะมีการหยิบบทความคำสอนจากในพระคัมภีร์ไบเบิลที่เกี่ยวข้องกับความรักและการแต่งงานขึ้นมาอ่านเพื่อเตือนใจคู่บ่าวสาว

3.บทพระวรสาร  บาทหลวงจะกล่าวเทศน์การแต่งงานเสริมจากในคำสอนพระคัมภีร์ไบเบิลที่เกี่ยวข้องกับความรักและการแต่งงานเป็นพิเศษ

4.พิธีศีลสมรส ทุกคนจะลุกขึ้นยืน และบาทหลวงจะทำการกล่าวนำเพื่อให้บ่าวสาวรับคำปฏิญาณการแต่งงาน โดยฝ่ายบ่าวสาวจะกล่าวตอบตกลงรับคำปฏิญาณว่าจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดไป

5.การสวมแหวน ในขั้นตอนนี้คู่บ่าวสาวจะได้สวมแหวนหลังการกล่าวเสกแหวนของบทหลวงเพื่อเป็นตัวแทนคำมั่นสัญญาในกันและกัน

6.การภาวนาเพื่อมวลชนพิธีสมรส แขกทุกคนจะร่วมกันภาวนาเพื่อคู่บ่าวสาวและเพื่อครอบครัวอื่น ๆ ทั่วโลก

7.ภาคบูชาขอบพระคุณ และรับศีลมหาสนิท ขั้นตอนนี้จะเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวคริสต์โดยเฉพาะ ซึ่งคนไทยที่นับถือศาสนาคริสต์มักจะไม่นิยมทำกันมาก โดยจะมีการรับศีลมหาสนิทซึ่งเป็นแผ่นปังและเหล้าองุ่นสำหรับฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกคนอื่น ๆ ยกเว้นญาติของคู่บ่าวสาว หลังจากนั้นก็จะจบพิธีแต่งงานตามแบบศาสนาคริสต์ลงโดยการที่บาทหลวงจะทำการอวยพรแก่คู่บ่าวสาวและกล่าวปิดพิธี

ระเบียบแต่งงานของศาสนาคริสต์ที่ไม่ควรมองข้าม

            การแต่งงานตามหลักศาสนาคริสต์ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่จะแต่งงานกันต้องเป็นคนที่รักกันด้วยหัวใจที่แท้จริง ไม่ได้ถูกบังคับให้แต่งงาน รวมถึงประสงค์ที่จะมีบุตรและร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันได้ตลอดไป เมื่อแต่งงานแล้ว คนที่แต่งต้องมีอีกฝ่ายเพียงคนเดียวเท่านั้น และหากเป็นประเทศที่มีความเคร่งครัดในศาสนามากอาจจะไม่อนุญาตให้มีการแต่งงานกับบุคคลนอกศาสนาเลย

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#แต่งงานแบบคริสต์ #แต่งงานพิธีคริสต์ #งานแต่งศาสนาคริสต์

Our Partner