ท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรมแดนเอเชียที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองนั้นยังคงมีมาตรฐานสากลที่ใช้ใกล้เคียงกันโดยทั่วไปในเรื่องของสิทธิมนุษยชนไปจนถึงวัฒนธรรมครอบครัว และการแต่งงานที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ก็ยังมีอีกประเทศหนึ่งที่เคร่งครัดในด้านของระบบการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่อง “การแต่งงาน” ซึ่งถือเป็นด้านที่โดดเด่นซึ่งผู้คนให้ความเคารพปฏิบัติกันแตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศในยุคนี้มากสำหรับอินเดีย ที่แม้พื้นเพวัฒนธรรมและประเพณีบางอย่างของไทยเราจะได้รับมาจากประเทศนี้ แต่เอกลักษณ์การแต่งงานเป็นครู่ครองชีวิตของอินเดียกับเมืองไทยกลับไม่เหมือนกันเลยสักนิด และอินเดียยังมีการสร้างกรอบเป็นของตัวเอง เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ “การมอบสินสอด” ที่เป็นของกำนัลมีคุณค่าในการสู่ขอคนรักจากครอบครัวเขา ซึ่งหากคุณอยากรู้ว่า “การมอบสินสอดไทย” กับ “การมอบสินสอดอินเดีย” มีความแตกต่างกันอย่างไรล่ะก็ต้องมาอ่านกัน
การมอบสินสอดของไทย
“การมอบสินสอดตามวัฒนธรรมไทย” จะเปรียบฝ่ายหญิงเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่าที่แตะต้องยาก มีความเก็บเนื้อเก็บตัวเพื่อทุ่มเทชีวิตและหัวใจให้กับสามีคู่ครองตัวเองเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครอบครัวฝ่ายชายจึงต้องเป็นผู้มอบสินสอดให้แก่ครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อสู่ขอสิ่งล้ำค่านี้ซึ่งการเรียกจำนวนสินสอดก็มีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเรียกสินสอดตามหน้าที่การงานของคนรักกันซึ่งได้รับการแบ่งครึ่งต่อครึ่งกันแล้วจากเงินเดือนทั้งสอง, การเรียกจำนวนสินสอดตามฐานะทางบ้านของครอบครัวอีกฝ่าย และการเรียกสินสอดตามสะดวกเท่าที่ครอบครัวฝ่ายชายจะมีกำลังหามาได้ด้วยความเป็นกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสมัยนี้ก็จะเป็นการมอบสินสอดอย่างหลังตามกำลังของครอบครัวฝ่ายชายมากกว่า เพื่อความเป็นกันเองและกระชับมิตรภาพการเป็นทองแผ่นเดียวกันของครอบครัวฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในอนาคตด้วย ซึ่งวัฒนธรรมการมอบสินสอดแก่ครอบครัวฝ่ายหญิงนี้ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยึดปฏิบัติกัน
การมอบสินสอดของอินเดีย
“การมอบสินสอดตามวัฒนธรรมอินเดีย” จะตรงกันข้ามกับการมอบสินสอดวัฒนธรรมไทยทุกอย่าง คือ แทนที่ผู้มอบสินสอดจะเป็นฝ่ายชายกลับกลายเป็นครอบครัวฝ่ายหญิงที่ต้องมอบสินสอดให้แก่ครอบครัวฝ่ายชาย เพราะอินเดียนั้นจำกัดสิทธิสตรีค่อนข้างน้อย ตามวัฒนธรรมที่ปฏิบัติมาอย่างเคร่งครัดผู้หญิงมีหน้าที่อยู่ภายใต้การปกครองของผู้ชาย ไม่สามารถขัดแย้งใด ๆ ได้ ผู้ชายย่อมเป็นผู้ทรงอิทธิพล ทำอะไรก็ถูกเสมอเพราะในอดีตผู้ที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนให้อินเดียเจริญได้นั้นก็คือผู้ชาย ทำให้ความคิดนี้ติดมากับอินเดียเป็นระยะเวลานาน และการมอบผู้หญิงให้ฝ่ายชายก็ไม่ต่างกับการเป็นเครื่องบรรณาการที่ฝ่ายชายควรได้รับเท่าไหร่ซึ่งครอบครัวฝ่ายหญิงจะได้มีหน้ามีตามีศักดิ์ศรีมากขึ้น พวกเธอจึงไม่สามารถเลือกคนรักได้นอกจากการถูกจับคลุมถุงชนกับผู้มีฐานะทางสังคมเท่าเทียมกัน และครอบครัวฝ่ายชายมีหน้าที่เรียกสินสอดตามฐานะของตัวเองตามที่ต้องการ แต่หากจำนวนสินสอดที่เรียกนั้นครอบครัวฝ่ายหญิงไม่สามารถหามาให้ได้ทันตามกำหนดก็จะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น

ในยุคปัจจุบันแม้ว่าการมอบสินสอดอินเดียจะไม่แตกต่างจากมาตรฐานสากลของประเทศส่วนใหญ่ด้านความเท่าเทียมกันในฐานะการงานแล้ว และวรรณะก็ไม่มีบทบาทอีกต่อไป แต่ตามชนบทก็ยังคงยึดการเรียกสินสอดที่ให้ฝ่ายชายเป็นใหญ่ดังเช่นอดีตเหมือนเดิมจึงมีความแตกต่างจากการเรียกสินสอดของไทยเรามาก
เครดิตภาพ : pixabay
#สินสอด #ไทยอินเดีย #เกร็ดความรู้งานแต่ง